เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 บจ. ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน ร่วมกับเหล่าพันธมิตร 2morrow Group และ FIRM จัดงานปิดหลักสูตร 2morrow Scaler รุ่นที่ 7 พร้อมทั้งได้มีการเชิญนักการเมืองจากแต่ละพรรคมาร่วมถ่ายทอดนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ในหัวข้อ “เข้าเส้นชัย ด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ที่ไม่ใช่แค่ฝัน” ณ โรงแรมแลงคาสเตอร์
2morrow Scaler หลักสูตรด้านการขยาย (Scale) ธุรกิจ ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในหลักสูตรที่ดีที่สุดในประเทศไทยสำหรับคนที่ต้องการสเกลธุรกิจจริง โดยเชื่อมโยงพันธมิตรที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้สร้างธุรกิจข้ามพรมแดนประเทศให้สำเร็จได้อย่าง Beyond Frontiers
โดยภายในงานช่วงแรกได้มีตัวแทนจากพรรคการเมืองแต่ละพรรคทั้ง พรรคก้าวไกล พรรคกรีน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ร่วมถ่ายทอดนโยบายเศรษฐกิจของพรรคให้แก่นักเรียน 2morrow Scaler สามารถอ่านนโยบายทางเศรษฐกิจที่แต่ละพรรคนำเสนอมาได้ที่ https://tojo.news/2morrow-scaler-21/
นอกจากนี้อีกช่วงคือช่วงที่พูดในประเด็น “หากเลือกทำได้ เพียง 1 นโยบาย คุณจะเลือกนำเสนอนโยบายอะไร ที่จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ และสังคม อธิบายให้เข้าใจ ทั้งกระบวนการสร้าง หางบประมาณ การลงมือทำ และผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้” ซึ่งลำดับการพูดนั้นถูกจับฉลากโดย คุณวิเชฐ ตันติวานิช
เริ่มด้วย
พรรคพลังประชารัฐ
ดร.ม.ล. กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การใช้เงินเยอะของพรรคจะเน้นไปช่วยในกลุ่มบอบบางเท่านั้นอย่างเกษตรกร หรือผู้ที่มีบัตรประชารัฐ หรือคนจน โครงการอื่นเราจะไม่เน้นเพื่อสร้างแต้มต่อให้คนเหล่านี้ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือปรับโครงสร้าง ที่แน่ ๆ เลยคือปรับโครงสร้างพลังงานของประเทศทั้งหมด ปรับโครงสร้างแรกคือเรื่องโซลาร์เซลล์ ให้ทุกบ้านติดโซลาร์เซลล์แล้วแลกหน่วยที่ผลิตได้กับไฟกับการไฟฟ้าเพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าไฟ หรือการทำโรงไฟฟ้าของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าที่ทำจากใบอ้อย หรือใช้เชื้อเพลิงที่มาจากกากปาล์ม และจากนโยบายที่พูดมานั้นคือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและยกเลิกกฎเกณฑ์เท่านั้น
พรรคชาติไทยพัฒนา
คุณรัฐชทรัพย์ นิชิด้า กรรมการนโยบายยุทธศาสตร์ และกรรมการประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาให้ความสำคัญการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน โดยกล่าววว่า “นโยบายของรัฐที่ก่อหนี้ผูกพันให้ประชาชน แล้วทำไม่สำเร็จใครรับผิดชอบ” ทางพรรคจะเข้ามารับผิดชอบหากได้เป็นรัฐบาล โดยจะทำการปฏิรูปทั้งหลักเกณฑ์ กฎหมาย และในส่วนของภาคเศรษฐกิจ รัฐบาลหารายได้จากไหน มี 2 ส่วน คือ ภาษี กับรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรมหาชนที่หารายได้ด้วยตัวเอง ถ้าเป็นอย่างงั้น 30% ที่เป็นงบประจำ อีก 30% ที่เป็นค่าสาธารณูปโภค และอีก 10% ที่เป็นงบลงทุน ซึ่งก็ถูกตัดทำให้เงินลงทุนไม่เหลือ ไม่ได้ถูก Deploy ไปสู่ภาคเอกชน รัฐบาลต้องคิดหาวิธีหารายได้ โดยการเปิด LC เอง โดยให้เอกชนเป็น Agency
พรรคกรีน
คุณพงศา ชูแนม หัวหน้าพรรคกรีน กล่าวว่า แผนงานที่สำคัญที่สุดเป็นแคมเปญของเรา 1,000 ต้น 3 ปีมีล้านบาท ใครมีต้นไม้ปลูกต้นไม้ที่อายุเกินสามปีก็จะการันตีล่วงหน้าให้ 10 ปี ต้นละ 1,000 เราเชื่อว่าภาคเอกชนและภาคประชาชนก้าวหน้ากว่ารัฐบาลเสมอ เราเชื่อว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลจากไม้เป็นพลังงานที่สะอาดที่สุด ถ้าเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลจากไม้คนก็จะปลูกต้นไม้ลดพื้นที่เกษตรลง เป็นพื้นที่จากป่าเพิ่มต้นไม้ครึ่งหนึ่ง วันนี้มีกฎหมายแล้วนะครับต้นไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลระดับชุมชนดึงไว้ก่อนใช้แค่สามสิบห้าตันต่อวัน ปีหนึ่งใช้ 365 ไร่ต่อตำบล ตำบลหนึ่งหมื่นกว่าไร่ไม่มีวันหมดก็จะเกิดโรงไฟฟ้าชีวมวลระดับตำบล ที่เยอรมันไม้ฟืนกิโลละ 10 บาท เพราะเขาเทียบค่าว่าเอาอะไรมาเผาก็ได้ถ้าร้อนเท่ากันให้เงินเท่ากัน วันนี้ไม้ฟืนสด 4 กิโลกรัม มีความร้อนเท่ากับน้ำมัน 1 ลิตร ให้ค่าความร้อน 8,700 กิโลแคลลอรี่ ถ้าเป็นแบบนี้ไม้ฟืนสดจากกิโลกรัมละ 6 บาท 25 สตางค์ ข้าวกิโลกรัมละ 7 บาท คนก็จะเปลี่ยนจากการทำนา มาเป็นการปลูกต้นไม้มากขึ้นแล้วเอาเข้าโรงไฟฟ้าชีวมวลมาใช้พลังงาน ซึ่งผมคิดว่าพลังงานเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากในสังคมต่อไป
พรรคก้าวไกล
ดร. สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อและทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ทุกนโยบายของพรรคก้าวไกลนำเสนอพร้อมกับแหล่งที่มาของงบประมาณ นโยบายที่วันนี้อยากจะเอามาขาย มาชวนทุกท่านให้เข้าใจพรรคก้าวไกลมากขึ้นก็คือ นโยบายส่วนหนึ่งของการกระตุ้น SME หรือผู้ประกอบการรายย่อย นโยบายเรื่องหวยใบเสร็จ หวยใบเสร็จเป็นนโยบายที่เราอยากจะเพิ่มแต้มต่อให้กับ SME ต่อไปทุกคนถ้าเดินเข้าอุดหนุนผู้ประกอบการรายย่อยจะสามารถเปลี่ยนยอดซื้อ หรือยอดใช้จ่าย 500 บาท เป็นหวยหนึ่งใบ ล็อตตารี่หนึ่งใบสามารถสะสมจากร้านไหนก็ได้
ทำนองเดียวกันผู้ประกอบการคนขายของสามารถเปลี่ยนยอดขาย 5,000 บาท เป็นหวยหนึ่งใบได้เหมือนกัน เชื่อว่าภายใต้ระบบนี้จะเป็นแรงจูงใจถ้าต่อไปเราเลือกระหว่างจะซื้อร้านโชห่วยกับร้านสะดวกซื้อสักหนึ่งร้าน มันน่าจะทำให้เราเลือกอยากเดินไปอุดหนุนร้านโชห่วย เพราะนอกจากได้ของคุณยังได้ลอตเตอรี่ติดมือกลับมา เราเชื่อว่ามันจะช่วยจูงใจผู้บริโภคให้อยากจะสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย และที่สำคัญทำได้ทันที นโยบายหวยใบเสร็จเป็นนโยบายเรือธงหรือนโยบายหลักของพรรคก้าวไกล โดยประกาศแล้วว่าจะทำทันทีเมื่อเราเป็นรัฐบาล 100 วันแรก หมายความว่าเราต้องมั่นใจว่าทำได้ภายใต้งบประมาณหวยใบเสร็จหนึ่งปีเราใช้งบประมาณ สองหมื่นสี่พันล้านบาท เราบอกว่าปีแรกที่เราไปเป็นรัฐบาลก้าวไกลมีแหล่งรายได้ 3 ส่วนที่เราสามารถหาได้
1. ยอดภาษีที่เราประมาณการว่าปีหน้าจะเพิ่มขึ้นสองแสนล้าน
2. ตัดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
3. งบประมาณจากแหล่งรายได้ใหม่ๆ
มากกว่าเรื่องหวยใบเสร็จเราคิดว่านโยบายหวยใบเสร็จเป็นแค่สารตั้งต้นที่ทำให้ต่อไปเราสามารถช่วยเหลือ SME ได้ตรงจุดมากขึ้น ถ้า SME อยากจะได้สินเชื่อ SME ไม่จำเป็นต้องพึ่งหนี้นอกระบบ เพราะเราสามารถใช้ข้อมูลใบเสร็จที่สะสมผ่านแอปเป๋าตังค์ให้สินเชื่อผู้ประกอบการได้ทันที รัฐบาลก้าวไกลมีนโยบายช่วยเหลือด้านเงินทุน ชื่อนโยบายทุนตั้งตัว 100,000 บาท ทุนสร้างตัว 1,000,000 บาท โดยให้ บสย. ช่วยค้ำประกันเราไม่แทรกแซงเรื่องการเงิน เรามีนโยบายตัดรายจ่ายถ้าพรรคก้าวไกลผลักดันเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทสำเร็จ เราให้ SME สามารถตัดค่าใช้จ่ายได้สองเท่า ในระยะเวลาสองปีทั้งหมดนี้เป็นการช่วย SME ที่ตรงจุดอย่างรับผิดชอบภายใต้การจัดทำงบประมาณที่ชัดเจนและตอบคำถามได้ว่ามีความคุ้มค่าแค่ไหนครับ เลือกก้าวไกล SME ไทยไม่เหมือนเดิม
พรรคชาติพัฒนากล้า
คุณวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ทางพรรคชาติพัฒนากล้า ไม่ใช้นโยบายประชานิยม เพราะไม่เหมาะกับสภาวะบ้านเมืองในปัจจุบัน แต่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการชนกับทุนผูกขาดทั้งหมด โดยใช้วิธีเปลี่ยนทุนผูกขาดเป็นทุนเผื่อแผ่ ผ่านกลไกตลาดทุน ยกตัวอย่างการสนับสนุนสุราเสรี สุราผลไม้ไทย ที่เกษตรกรไทยมีของดี มีวัตถุดิบชั้นเลิศ อยากผลิตให้เป็นสุราแต่ติดข้อกฎหมายจากทุนผูกขาด ถ้าเราเปลี่ยนจากเกษตรกรมาอยู่ในรูปแบบกลุ่มสหกรณ์การเกษตร เอาสหกรณ์การเกษตร เข้าตลาดหลักทรัพย์ มีทุนใหญ่ร่วมด้วยเพราะ Model Business ที่ทางพรรคคิดไว้ คือ อยากให้คนตัวเล็กรวยด้วย การท่องเที่ยวปีนี้จะโตขึ้นกว่า 100% เป็นนาทีทองของประเทศไทย ต้องสนับสนุนการท่องเที่ยว เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวรายได้เข้าสู่ชนบท โมเดลเศรษฐกิจสายมูต้องผ่านตลาดนัด แล้วสินค้าชุมชนขายได้ผ่านตลาดนัด แล้วแต่ละตลอดเวลามีคนไปเที่ยวทำให้มีผู้บริโภครองรับ
พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย
คุณณัชพล สุพัฒนะ แคนดิเดตนายก พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กล่าวว่า อยากใช้มาตรการทางภาษีมาผลักดันในการขับเคลื่อนประเทศ อยากให้ทุกคนเสียภาษีเพื่อที่จะสะท้อนถึงความเป็นอยู่ของทุกคน หากมีการนำมาตรการทางภาษีมาใช้คนที่จะมาใช้สวัสดิการของรัฐเช่น โครงการ 30 บาท ขึ้นรถโดยสารฟรี รวมถึงโครงการคนละครึ่งต้องลงทะเบียนเสียภาษีก่อน มาตรการนี้จะทำให้ทุกคนเข้าสู่ระบบ เมื่อรู้ว่าแต่ละคนเสียภาษีเท่าไหร่ก็ต้องไปดูความเป็นอยู่เขาต่อ มาตรการการเสียภาษีจะเป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่าแต่ละคนนั้นมีรายได้มาจากไหนและทำให้คนรู้สึกว่ามีส่วนร่วมด้วย
พรรคประชาธิปัตย์
ม.ธ.ว. ศศิพฤนท์ จันทรทัต ทีมเศรษฐกิจและผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อของพรรค กล่าวว่า จะทำทุกนโยบายจากทั้ง 8 พรรคพูดถึง แต่ถ้าหากเป็นพรรคเดียวที่ได้เป็นรัฐบาลจะนำเงินไปลงธนาคารชุมชนและหมู่บ้านก่อน เพราะเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของรากหญ้าคือการเข้าถึงแหล่งเงิน โดยการหาเงินนั้นจะมาจากการเสียภาษี และทำให้ SME ที่เป็นคนกลุ่มกลางเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ได้ง่ายที่สุด เพราะคนกลุ่มนี้จะเป็นฐานภาษีในอนาคต และสำหรับกลุ่มล่างสุดคือกลุ่มของฐานราก เกษตรกร ที่อยากให้พวกเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำการเกษตรปัจจุบันให้เป็นนักธุรกิจการเกษตร ให้เขาสามารถผลิตสินค้าที่เขาทำได้ในจำนวนที่มากขึ้นและคุณภาพที่ดีขึ้น ถ้าทำต่อเนื่องได้ในสเกลใหญ่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมพูดทั้งหมดก็คือเก็บภาษีให้ได้มากที่สุด ใช้ตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ แล้วก็ทำทุกนโยบายทั้ง 8 พรรคไปพร้อม ๆ กัน
พรรคไทยสร้างไทย
คุณสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและแคนดิเดตนายก กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยจะเข้ามาแก้ปัญหาคอรัปชัน โดยทำเรื่องข้อมูล Deta one ดึงข้อมูลจากทุกกระทรวงมาประสานเป็นหนึ่งเดียว เพราะเราสามารถตรวจสอบได้ มีข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน ทุกอย่างต้องใช้ระบบการจัดการที่ถูกต้อง เอาเทคโนโลยีมาใช้ อีกหนึ่งตัวอย่างคือการใช้แพลตฟอร์มในการท่องเที่ยว โดยการให้รัฐบาลสนับสนุนในส่วนนี้ โดยการขอคุยโรงแรมทั่วประเทศ การจองผ่าน “ทักทาย” ต้องมีราคาที่ถูก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้าทั้งหลาย รวมทั้งการผลิตสินค้าไทย ทำให้ Solf power เกิดขึ้น โรงแรมเองก็ได้ประโยชน์ในการไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่สูง ทำให้คนเข้ามาได้ใช้การท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
โสเหล่ กิจกรรมสุดเท่ของ 2morrow Scaler
หลักสูตร 2morrow Scaler รุ่น 7 ยังมีกิจกรรมโสเหล่ที่ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มได้มาแบ่งปันประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ และให้คนได้รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของหลักสูตร 2morrow Scaler โดยในวันนี้แต่ละกลุ่มได้ส่งตัวแทนนักธุรกิจตัวจริงมาเล่าแบ่งปันประสบการณ์ไม่ว่าจะเป็น คุณมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ประธานกรรมการบริษัท บริษัท สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด คุณศุรสิทธิ์ กาญจนรินทร์ Advisor to Executive Members บริษัท มาสเตอร์สไตล์ จำกัด (มหาชน) คุณทักษอร คงคาประเสริฐ CEOAnya Meditec Co., Ltd. และคุณเอนก เวชพันธุ์ CEO & Co-founder บริษัท น้ำใส ไทย จำกัด ซึ่งทั้ง 4 ท่าน ได้มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์สุดล้ำค่าที่หาฟังได้ใน 2morrow Scaler เท่านั้น
Directors Talk
อีกช่วงสุดประทับใจของหลักสูตร 2morrow Scaler ที่ได้ให้ Directors แต่ละท่านมาพูดถึงความประทับใจของหลักสูตรนี้เริ่มจาก คุณปิยพันธ์ วงศ์ยะรา กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งหลักสูตร 2morrow Scaler
กล่าวว่า รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ผมรักที่สุดรุ่นหนึ่ง ทุกคนเป็นคนง่าย ๆ ซึ่งผ่านการพิสูจน์ด้วยการไปทริปที่ญี่ปุ่น ถ้าพวกเราไม่มีความรักในความเป็นเพื่อน ความเป็นหลักสูตร 2morrow Scaler สิ่งที่เราอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ด้วยความที่ผมเป็น Director ขอบอกว่าถ้าเราไม่ชอบกันโมเมนต์ 3 เดือนจะรู้สึกว่าเป็นเวลาที่ยาว แต่ผมรู้สึกว่าทำไม 3 เดือนนี้เร็วมาก และขอให้โมเมนต์ตรงนี้หลังจากนี้ไปเวลาที่เราทำอะไรก็ตาม ให้เก็บเอาโมเมนต์ตรงนี้เป็นกำลังใจ
ตามมาด้วย คุณวีชัชชฎา ยงสุวรรณกุล กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งหลักสูตร 2morrow Scaler
กล่าวว่า กล่าวว่า รุ่นนี้มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง ซึ่งบอกได้ว่ารุ่นนี้สำหรับนุชเองต้องบอกว่าเป็นรุ่นงานเข้าสำหรับตัวเอง มีเรื่องให้แก้ไขทุกวัน แต่ก็ต้องขอบคุณพี่ใหญ่ในกลุ่มซีซาร์ที่เป็นพยายามกระตุ้นและขับเคลื่อน แต่ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นงานเข้าจริง ๆ แต่ก็ยังได้มีปฏิสัมพันธ์กับอีกหลายคนได้จากโครงการที่เราทำด้วยกัน รุ่นนี้ถึงจะมีความแตกต่างแต่ก็มีความประทับใจอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับตัวเองเช่นกัน ขอบคุณทุก ๆ คนที่มาร่วมรุ่น 2morrow Scaler 7 ด้วยกัน
ทางด้าน คุณประกาศิต ทิตาราม กรรมการหลักสูตร 2morrow Scaler
กล่าวว่า แต่ละรุ่นก็จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง รุ่น 7 เป็นรุ่นที่ต้องบอกว่าสร้างความประทับใจในอีกรูปแบบหนึ่ง ทุกคนมีความสนิทใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วมาก คงมีไม่กี่รุ่นที่ไปนอนค้างด้วยกัน แล้วก็ไปโดดน้ำในอ่าง Jacuzzi ด้วยกันทั้งคืน สร้างมีโมเมนต์ที่น่าประทับใจหลายเรื่อง หลังจากสถานการณ์โควิดหลายคนกลับมาลุยธุรกิจตัวเองจริงจังตั้งแต่ต้นปี ผมเชื่อว่าทุกคนมีภารกิจเยอะมาก แต่ทุกคนก็ยังสละเวลามาเข้า Class 2morrow scaler รุ่น 7 หลายคนก็มาอย่างสม่ำเสมอ ต้องชื่นชมจริงๆ ว่ามีการจัดสรรและให้ความสำคัญกับหลักสูตรได้อย่างดี สำหรับคนที่ไม่มาไม่ใช่ว่าจะไม่เป็นที่ชื่นชม ก็ยังชื่นชมในสปิริตที่มาร่วมโครงการกับหลักสูตรนี้ หลาย ๆ เรื่องที่เราได้เห็น ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์จากหลักสูตรไป น่าจะเป็นประโยชน์ในการไปต่อยอด เพื่อสังคม และธุรกิจของเราเองได้ ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกัน แล้วแชร์ประสบการณ์ด้วยกัน
สำหรับ คุณโอฬาร วีระนนท์ กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งหลักสูตร 2morrow Scaler
กล่าวว่า ผมอยากสรุปเป็น 3 คำละกันสำหรับความประทับใจ กับ scaler รุ่นนี้คือคำว่า “มิตรภาพ ความทรงจำ ความยั่งยืน” แต่อย่างไรก็ตามผมต้องขอบคุณกลุ่ม Columbus มาก ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่คุณโอฬาร เป็น Director ที่มีความรักกันภายในกลุ่ม ได้ร่วมกันสร้างความทรงจำมากมายกับเพื่อนร่วมกลุ่ม โดยคุณโอฬารเชื่อจากหัวใจว่ารุ่นนี้มีประธานรุ่นที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ไม่ใช่เรื่องอายุ แต่เป็นเรื่องความตั้งใจของพี่กวาง ที่จะทำให้รุ่นเป็นรุ่น ไม่ใช่รุ่นเป็นกลุ่ม นี่คือเรื่องมิตรภาพ ส่วนเรื่องสายสัมพันธ์ Connection เกิดจาก First Impression คือความประทับใจเมื่อแรกพบ คือเริ่มจากการให้ก่อน พี่โอ๋คือตัวอย่างของที่ดี พี่โอ๋เป็นพี่ที่ให้ทุกคน พี่โอ๋กับพี่เว้มี Character ที่เหมือนกัน คือการให้ การตั้งใจ Contribute ให้น้อง ๆ เพื่อต่อยอดสู่อนาคตได้ สิ่งนี้ทำให้พี่สามารถครองใจคนได้มากที่สุด และถัดจากนั้นคือการ Keep relations เพื่อต่อยอดสายสัมพันธ์ที่ดี สุดท้ายคือเรื่องความยั่งยืน ความยั่งยืนมาจากการที่ผ่านพ้นวันนี้ไปแล้วสามารถรวมกลุ่มไปทำอะไรก็ได้ เช่น การปาร์ตี้ หรืออยู่ที่ความชอบของแต่ละคน อยากให้กลุ่มนี้ กลุ่ม 2morrow Scaler รุ่น 7 เป็นกลุ่มที่ยั่งยืนต่อไป
ปิดท้ายด้วย คุณวิเชฐ ตันติวานิช ประธานกรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งหลักสูตร 2morrow Scaler
กล่าวว่า ไม่นึกว่าเวลาจะรวดเร็วขนาดนี้ ทุกครั้งก็มีความสุขตลอดไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม พี่จะพูดเสมอว่าการพบกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องมีอะไรบางอย่างกำหนดอย่างชะตาชีวิตที่ทำให้เราได้มาพบกัน บางคนมาในนาทีสุดท้าย เรื่องโชคชะตาก็ทำให้ผมกับ Directors ทั้ง 4 พบกันด้วยเหตุบังเอิญ พอมารวมตัวกันมาก ๆ ทำให้ตั้งกลายเป็น 2morrow Scaler จนได้มาเจอกับน้อง ๆ ทุกคนทั้ง 7 รุ่น รุ่นที่ 7 ต้องบอกว่ามันเป็นความสุข มันเป็นของขวัญที่ไม่รู้ว่าใครให้ แต่มั่นใจเลยว่าพวกเราทั้งหมดไม่เคยมีใครเกลียดกัน หรือหมั่นไส้อะไรกัน ไม่มีความรู้สึกแย่เลยสักนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้พบกันตั้งแต่วันแรก การไปพัทยาของเราที่ยังไม่รู้จักกัน เรามีความเกร็ง เมื่อเวลาผ่านไปประมาณสัปดาห์แรกถึงสัปดาห์ที่สองเราก็มีความสัมพันธ์ขึ้นมาระดับหนึ่ง จนในที่สุดแต่ละกลุ่มก็ค่อย ๆ เบลนเข้าหากัน ในการไปประเทศญี่ปุ่นต้องบอกตามตรงว่ายิ่งรู้สึกกลัวว่าพวกเราน้อง ๆ จะบ่นกัน กลัวมากเลยครับ แต่หลักการทำงานของ Scaler เมื่อเรามุ่งมั่นแล้ว เราตั้งใจที่จะไป ต้องขอบคุณทุกอย่าง ทุกน้ำใจ ที่ทุกคนรู้สึกว่ามันไม่เป็นไรในเมื่อเราเป็นเพื่อนกัน สังเกตดูไหมครับถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่ใช่เพื่อนกันอะไรมันก็ยากไปหมด เวลาเราเป็นเพื่อนกันอะไรมันก็ง่ายไปหมด แล้วก็หวังว่าความสัมพันธ์นี้มันจะไปต่อ ผมมั่นใจว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีและสามารถมีมิตรภาพที่ดีต่อกันได้ยาว ๆ
ในช่วงสุดท้ายของงาน เป็นพิธีมอบประกาศนียบัตร 2morrow Scaler รุ่นที่ 7 ที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น และมิตรภาพรักหว่างเหล่า Directors และนักเรียนภายในหลักสูตร
ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่
Website : 2morrowscaler, DurianCorp
Facebook : 2morrowscaler, DurianCorp
#2morrowScaler #2MS7
#DURIAN #2morrowGroup #FIRM #หลักสูตรผู้บริหาร
#เข้าเส้นชัยด้วยนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่ใช่แค่ฝัน
#พรรคก้าวไกล #สิทธิพลวิบูลย์ธนกุล
#พรรคกรีน #พงศาชูแนม
#พรรคชาติไทยพัฒนา #รัฐชทรัพย์นิชิด้า
#พรรคชาติพัฒนากล้า #วรวุฒิอุ่นใจ
#พรรคไทยสร้างไทย #สุพันธุ์มงคลสุธี
#พรรคประชาธิปัตย์ #ศศิพฤนท์จันทรทัต
#พรรคพลังประชารัฐ #กรกสิวัฒน์เกษมศรี
#พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย #ณัชพลสุพัฒนะ